ปภ.รายงานยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 17 จังหวัด ประสานเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย (9 ต.ค. 64)
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 9 ต.ค. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 17 จังหวัด 68 อำเภอ 396 ตำบล 2,039 หมู่บ้าน 88,667 ครัวเรือน ดังนี้
1. สุโขทัย ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสำโรง อำเภอคีรีมาศ ระดับน้ำลดลง และอำเภอเมืองสุโขทัย ระดับน้ำทรงตัว
2. พิษณุโลก ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังทอง อำเภอพรหมพิราม ระดับน้ำลดลง และอำเภอบางระกำ ระดับน้ำทรงตัว
3. ขอนแก่น ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูผาม่าน อำเภอชุมแพ อำเภอหนองเรือ อำเภอแวงน้อย อำเภอแวงใหญ่ อำเภอโคกโพธิ์ไชย อำเภอชนบท อำเภอมัญจาคีรี และอำเภอโนนศิลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ส่วนในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น ระดับน้ำยังสูง
4. มหาสารคาม มวลน้ำจากจังหวัดขอนแก่นไหลเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และเมืองมหาสารคาม ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5. ชัยภูมิ ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ ระดับน้ำลดลง
6. นครราชสีมา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย อำเภอคง อำเภอจักราช อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอประทาย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอชุมพวง และอำเภอเมืองยาง ระดับน้ำลดลง จังหวัดตั้งจุดอพยพในอำเภอโนนสูงและอำเภอแก้งานามนาง ผู้อพยพ 47 คน
7. อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารนิชำราบ ระดับน้ำลดลง จังหวัดจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จํานวน 16 จุด ผู้อพยพ 2,004 คน
8. นครสวรรค์ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอพยุหะคีรี และอำเภอโกรกพระ ระดับน้ำลดลง
9. อุทัยธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองอุทัยธานี ระดับน้ำลดลง จังหวัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จํานวน 2 จุด ผู้อพยพ 28 คน
10. ชัยนาท ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอสรรพยา ระดับน้ำทรงตัว
11. ลพบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านหมี่ อำเภอพัฒนานิคม และอำเภอโคกสําโรง ระดับน้ำลดลง
12. สระบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอเสาไห้ อำเภอหนองโดน อำเภอบ้านหมอ และอำเภอดอนพุด) ระดับน้ำลดลง จังหวัดตั้งจุดอพยพ 6 จุด ผู้อพยพ 233 คน
13. สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ระดับน้ำทรงตัว
14. สิงห์บุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอค่ายบางระจัน อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอพรหมบุรี และอำเภอท่าช้าง ระดับน้ำทรงตัว.
15. อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก อำเภอวิเศษชัยชาญ และอำเภอสามโก้ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองโผงเผง ซึ่งอยู่นอกเขตคันกั้นน้ำ ระดับน้ำทรงตัว.
16. พระนครศรีอยุธยา น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง อำเภอบางปะหัน และอำเภอมหาราช ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล ซึ่งอยู่นอกเขตคันกั้นน้ำ ระดับน้ำทรงตัว.
17. ปทุมธานี น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ริมน้ำ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก ระดับน้ำลดลง
สำหรับประชาชนที่ประสบภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
#น้ำท่วม #สถานการณ์น้ำ
#สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
#RADIOTHAILAND