หลังจากการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สองวันประวัติศาสตร์ของปี 2020 (18-19 พ.ค.) ล่าสุดหลังการประชุมผ่านระบบออนไลน์ ประเทศสมาชิกได้ให้การสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งมติการประชุมสมัชชาอนามัยโลก เมื่อวันอังคารที่ 19 พฤษภาคม ขณะที่ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ร่วมประชุมด้วยการยืนจดหมายกล่าวโจมตีองค์กรฯ ขู่ถอนตัวจากองค์กรที่เป็นหน่วยงานใหญ่ของสหประชาชาตินี้ และให้เวลา 30 วันในการปฏิรูปการทำงาน หากไม่เช่นนั้น จะสูญเสียเงินทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ
สหรัฐฯตำหนิWHOและขู่ถอนตัว
จีนเสนอความช่วยเหลือแบ่งปันทั่วโลก
การประชุมเริ่มต้นเมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดตัวด้วยการโจมตีส่งจดหมายยืนยันความเชื่อของอเมริกาว่าองค์การอนามัยโลกไม่ได้เป็นอิสระจากจีนอย่างเพียงพอ และยอมรับง่ายเกินไปกับคำอธิบายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของการระบาดของโรคโคโรนา
“ หากองค์การอนามัยโลกไม่ได้มุ่งมั่นในการปรับปรุงที่สำคัญภายใน 30 วันข้างหน้า ผมจะหยุดการให้ทุนแก่ WHO เป็นการถาวรและพิจารณาการเป็นสมาชิกของเรา” ทรัมป์ แถลงในจดหมายถึง นายเทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก
ตรงข้ามกับ ผู้นำจีน #สีจิ้นผิง แถลงในการประชุม #สมัชชาอนามัยโลก จีนเปิดเผย โปร่งใส รับผิดชอบ ในการรับมือการระบาดของ #โควิด พร้อมรับการตรวจสอบ และยังจะมอบเงินช่วยเหลือนานาชาติ 2,000 ล้านดอลลาร์
เราต้องมีรับผิดชอบมากกว่าใคร” สี จิ้นผิงกล่าวในคำแถลงฯ
สี จิ้นผิง กล่าวว่า เมื่อจีนวิจัย #วัคซีนโควิด ได้สำเร็จ จีนจะแบ่งปันให้กับทั่วโลก และ จะร่วมกับสหประชาชาติสร้าง “ทางด่วน” เพื่อแบ่งปันความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และการรับมือโรคระบาด
ผู้จีนยังระบุว่า ขณะนี้โรคโควิดยังไม่หมดสิ้นไป ยังต้องทุ่มเทควบคุมโรค ส่งเสริมการนำขององค์การอนามัยโลก ช่วยเหลือประเทศในแอฟริกา เสริมสร้างระบบสาธารณสุขทั่วโลก ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม เร่งฟื้นคืนการผลิต การทำงาน การเรียน รวมทั้งกระชับความร่วมมือของนานาชาติ
สมัชชาลงมติสนับสนุนผู้อำนวยการใหญ่ฯ
ในที่สุด สมัชชาฯ ได้ลงมติสนับสนุนการทำงานของ เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก และมีมติเห็นชอบ การสอบสวนการตอบสนองระดับโลกต่อการแพร่ระบาดของโรคโคโรนาไวรัส
ขณะที่การเสนอร่างมติฯ ร้องขอไต่สวนต้นกำเนิดและการตอบสนองระหว่างประเทศ ที่ริเริ่มโดยออสเตรเลียและสหรัฐฯ นั้น เมื่อประชุมวันอังคารได้นำร่างฉบับที่สองซึ่งเสนอโดยสหภาพยุโรปเป็นผู้นำฯ ไม่ใช่ออสเตรเลีย ผ่านมติเห็นชอบในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก
ก่อนเวลา 22.00 น. ในคืนวันอังคาร มติดังกล่าวมีผู้ร่วมสนับสนุนจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ -137 ประเทศ เอกฉันท์ โดยไม่มีผู้คัดค้าน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวผ่านการประชุมออนไลน์ว่า “การไต่สวนนี้ต้องมีทัศนคติทางวิทยาศาสตร์ มีหลักการวิชาชีพ และจำเป็นต้องได้รับการนำโดย WHO ยึดหลักการของความเที่ยงธรรมและความเป็นธรรม”
ผู้นำจีนยืนยันการจัดการปัญหาโรคระบาดว่า “เราดำเนินการด้วยความเปิดกว้างและโปร่งใสและรับผิดชอบ”
จีนรับร่างไต่สวนฯโดยสหภาพยุโรปเป็นผู้นำ
นายเทดรอส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าว ต้อนรับการลงมติและว่าเขาจะออกหมายเรียกไต่สวนตามเวลาที่เหมาะสม
ประธานาธิบดีจีนจินผิงกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสมัชชา และลงนาม เห็นชอบในการไต่สวน COVID-19
การตัดสินใจในนาทีสุดท้ายของจีนที่สนับสนุนมติดังกล่าว เนื่องจากร่างมติเรียกร้องการไต่สวนอิสระฉบับที่สอง ซึ่งเสนอโดยสหภาพยุโรป มีความแตกต่างกับร่างมติฯ ฉบับแรกของออสเตรเลีย โดยกระทรวงการต่างประเทศของจีนอ้างว่า ร่างเสนอมติฯ ของออสเตรเลียนั้น มีวาระทางการเมือง
ในแถลงการณ์ร่วมจากรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียมาริส เพย์น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เกร็กฮันท์ ว่าออสเตรเลียยินดีรับการปรับมติฯ ที่ยังคงสาระสำคัญ “ในเรื่องความชัดเจนในการระบุแหล่งที่มาของไวรัส COVID-19 และวิธีการแพร่เชื้อสู่มนุษย์ซึ่งจำเป็นต่อการป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคใหม่ที่แพร่จากสัตว์สู่มนุษย์” และย้ำว่า “ออสเตรเลียมีความชัดเจนและโปร่งใสในการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอิสระใน COVID-19 ซึ่งเป็นวิกฤตสุขภาพและเศรษฐกิจระดับโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
สำหรับการปรับในร่างมติฯ ฉบับสหภาพยุโรปนั้น มีท่าทีการประนีประนอมและการเจรจาและเลี่ยงการอ้างอิงพุ่งเป้าประเทศจีน รวมถึงการเปลี่ยนข้อกำหนดเช่น “การสอบสวน” เปลี่ยนเป็น “ทบทวน” เพ่งความสนใจไปที่ “บทเรียนที่ได้รับจากการตอบสนองด้านสุขภาพระดับสากลต่อ COVID-19”
จ้าว หลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวว่า “หลังจากการหารืออย่างถี่ถ้วนในร่างมติของ COVID-19 ของสหภาพยุโรปที่ส่งมายังสมัชชาฯ ปีนี้ ทุกฝ่ายให้ฉันทามติเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างมติดังกล่าว”
มติเรียกร้องผู้อำนวยการใหญ่ฯ องค์การอนามัยโลกนี้ อยู่ในหมวด/ข้อ OP9.6 COVID-19 response ระบุ “การดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับองค์การอาหารสัตว์โลก (OIE) และองค์การเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ One-Health Approach เพื่อระบุแหล่งที่มาของสัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสและเส้นทางการติดต่อจากสัตว์สู่มนุษย์ รวมถึงบทบาทที่เป็นไปได้ของโฮสต์ระดับกลาง ยังมีความร่วมมืออื่น ๆ เช่น ภารกิจทางวิทยาศาสตร์และการทำงานร่วมกันซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายและวาระการวิจัยเพื่อลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่คล้ายกันรวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการป้องกันการติดเชื้อ SARS-COV2 ในสัตว์และมนุษย์ และป้องกันการเกิดใหม่ของอุบัติการณ์ระบาดโรคติดเชื้อจากสัตว์”
.
มติเอกฉันท์ไมมีผู้คัดค้าน
ทั้งนี้ จากเอกสารมติการประชุมสมัชชา องค์การอนามัยโลก ระบุว่าร่างมติเสนอโดยแอลเบเนีย, ออสเตรเลีย, บาห์เรน, บังคลาเทศ, เบลารุส, ภูฏาน, โบลิเวีย, บราซิล, แคนาดา, ชิลี, จีน, โคลัมเบีย, คอสตาริกา, จิบูตี, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เอกวาดอร์, เอลซัลวาดอร์, ฟิจิ, กัวเตมาลา, กายอานา, ไอซ์แลนด์, อินเดีย, อินโดนีเซีย, อิรัก, ญี่ปุ่น, จอร์แดน, คาซัคสถาน, มัลดีฟส์, เกาะมาร์แชล, เม็กซิโก, ไมโครนีเซีย (สหพันธรัฐ), โมนาโก, มอนเตเนโกร, โมร็อกโก, นิวซีแลนด์, มาซิโดเนียตอนเหนือ, นอร์เวย์, ปานามา, ปารากวัย, เปรู, กาตาร์, สาธารณรัฐเกาหลี, สาธารณรัฐมอลโดวา, สหพันธรัฐรัสเซีย, ซานมารีโน, ซาอุดิอาระเบีย, สิงคโปร์, ศรีลังกา, ไทย, กลุ่มประเทศแอฟริกา, ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป , ตูนิเซีย, ตุรกี, ยูเครน และสหราชอาณาจักรกับไอร์แลนด์เหนือ
หลังจากผ่านมติไต่สวนฯ จากนี้การดำเนินการไต่สวนของคณะกรรมการองค์การอนามัยโลก ที่ประกอบด้วยสมาชิกเจ็ดคนจากรัฐบาลแห่งชาติสมาชิก, องค์กรพัฒนาเอกชน, และสหประชาชาติ จึงยังเป็นเรื่องที่คงต้องติดตามต่อไป
……………………..
ข้อมูล –
- SEVENTY-THIRD WORLD HEALTH ASSEMBLY A73/CONF./1 Rev.1 Agenda item 3 18 May 2020 COVID-19 response. (https://apps.who.int/)
- Coronavirus inquiry resolution adopted at World Health Assembly as China signs on. (https://www.smh.com.au/)
- Member states back WHO after renewed Donald Trump attack (https://www.theguardian.com/)
- As the day unfolded: World Health Assembly passes motion for virus inquiry as cases surpass 4.8 million worldwide, Australian death toll hits 100 (https://www.smh.com.au/)
- No longer a joke: Why Australia’s COVID-19 inquiry campaign won the day.(https://www.smh.com.au/)
