จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสอย่างหนักไปทั่วโลก ทำผู้คนล้มตาย ติดเชื้อ2.7 ล้านคน ประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเช่นกัน

เมื่อเทียบกับหลายๆประเทศในโลกแล้ว ประเทศไทยเองก็ถือว่ารับมือได้ดีกับวิกฤตินี้ในระดับหนึ่ง เพราะด้วยพื้นฐานของคนไทยแล้ว ความเป็นไทยที่เหนียวแน่น ไม่มีชาติใดในโลกเปรียบเสมือนได้ ทั้งความรักใคร่สามัคคี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทั้งหมดนี้จะทำให้เราก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันได้ดีในที่สุด

โดย WHO ได้คัดเลือกไทยร่วมกับอีก 8 ประเทศ ศึกษาการต้านโควิด-19 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่าประเทศไทยจะเข้าร่วมการศึกษาทางคลินิกหลายประเทศเพื่อรับการรักษาที่มีศักยภาพสำหรับโควิด-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการค้นหายาทั่วโลกอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาโควิด-19

นอกจากประเทศไทยแล้ว การทดลองนี้จะรวมถึงการมีส่วนร่วมของ อาร์เจนตินา บาห์เรน แคนาดาฝรั่งเศส อิหร่าน นอร์เวย์ แอฟริกาใต้ สเปนและสวิตเซอร์แลนด์

“ปัญหาระดับโลกนี้ต้องการการแก้ปัญหาระดับโลกเร่งด่วน” Daniel Kertesz ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทยกล่าว ประเทศไทยจะเป็นพันธมิตรที่มีคุณค่าในการเป็นเจ้าภาพการศึกษาเพื่อประเมินว่าการรักษาที่มีศักยภาพมีประสิทธิภาพหรือไม่ – เป้าหมายคือการระบุยาที่จะช่วยชีวิตผู้คนในการต่อสู้ระดับโลกเพื่อต่อสู้กับไวรัสนี้

การทดลองความเป็นปึกแผ่นจะทดสอบยาหรือชุดการรักษาที่แตกต่างกันสี่แบบ – remdesivir, การรวมกันของยาสองชนิด, lopinavir และ ritonavir, ยาสองตัวบวก interferon beta และ chloroquine – และจะเปรียบเทียบประสิทธิผลของพวกเขากับสิ่งที่เรียกว่ามาตรฐานการดูแล การรักษาผู้ป่วย COVID-19 ใช้ในขณะนี้

นอกจากนี้ผู้แทนองค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ให้เพิ่มความพยายามในการเอาชนะโควิด-19

“เราต้องใช้ทุกโอกาสเพื่อลดการแพร่กระจายของ โควิด-19 ระหว่างผู้คน หน่วยงานด้านสาธารณสุขจะยังคงทำหน้าที่ของตนต่อไป โดยการทดสอบโควิด-19 เพื่อแยกเคสออกอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสรักษาและติดตามการติดต่อ แต่ทุกคนมีความสามารถที่จะมีส่วนร่วมในการปกป้องตัวเองเพื่อปกป้องผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นที่บ้านในชุมชนของคุณที่ทำงานหรือในระบบการขนส่ง”

องค์การอนามัยโลกกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยเนื่องจากเป็นการเพิ่มการตอบสนองด้านสาธารณสุขต่อโรคโควิด-19 โดยให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศและองค์กรที่ทำงานร่วมกันเพื่อต่อสู้กับไวรัส

ข้อมูลจาก : Boongeum Baankok WHO

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *