องค์การอนามัยโลกและผู้เชี่ยวชาญโรคปอดเตือนการสูบบุหรี่มีส่วนทำให้การป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19รุนแรงขึ้น เหตุปอดถูกทำลายมากกว่าคนที่ไม่สูบ

ดร. ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารโครงการเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพขององค์การอนามัยโลก ให้ความเห็นว่าการสูบบุหรี่น่าจะทำให้การป่วยจากโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มีอาการรุนแรงขึ้น

ซึ่งเรื่องนี้ ดร.จิสลี่ เจนกิ้นส์ ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด มหาวิทยาลัยน็อตติ้งแฮม ประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเตือนเช่นกันว่าการสูบบุหรี่น่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงอันหนึ่งที่เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต เช่นเดียวกับกรณีโรคซาร์สและเมอร์สที่เกิดจากเชื้อโคโรน่าไวรัสเช่นเดียวกัน

สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดผู้ชายจะมีภาวะปอดอักเสบที่รุนแรงกว่า 2 เท่า และเสียชีวิตมากกว่าเกือบ 4 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการสูบบุหรี่ในจีนที่ผู้ชาย สูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิง

ดร.เจนกิ้นส์ กล่าวว่าปอดของคนสูบบุหรี่จะถูกทำลายจนเกิดภาวะถุงลมโป่งพองซึ่งภาวะนี้จะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ปอดสูงกว่าคนปกติ

ขณะที่ นายแพทย์มานาบุ ซากุตะ ประธานสมาคมควบคุมยาสูบญี่ปุ่น ร่อนจดหมายถึง รมต.สาธารณสุขญี่ปุ่น เตือนปัจจัยเสี่ยงสำคัญของไวรัสโควิด-19 ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้สูบบุหรี่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง และเบาหวาน

พญ.เริงฤดี ปธานวนิช คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลว่าเมื่อครั้งการระบาดของโรคเมอร์สที่เกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โคโรนาเช่นกัน พบคนสูบบุหรี่จะป่วยรุนแรงกว่าเพราะเซลล์ปอดของคนสูบบุหรี่มีตัวรับเชื้อไวรัสเมอร์สมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ซึ่งเป็นสาเหตุให้คนสูบบุหรี่มีอาการรุนแรงกว่า แม้ยังไม่มีการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่กับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เชื่อว่ากลไกการติดเชื้อน่าจะคล้ายกัน

ด้าน ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การสูบบุหรี่จะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้กระบวนการกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคที่หลุดเข้ามาที่ปอดแย่ลง เริ่มจากการทำให้เซลล์ปอดเกิดการอักเสบสะสมเรื้อรัง จนกระทั่งปอดถูกทำลายลงเรื่อย ๆ และทำให้สิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคเข้าสู่ปอดได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อมีการติดเชื้อปอดของผู้สูบบุหรี่จะเกิดการอักเสบที่รุนแรงกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่

“การเลิกสูบบุหรี่เป็นทางเดียวที่จะช่วยลดการอักเสบของเซลล์ปอด ยับยั้งการที่เซลล์ปอดถูกทำลายและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้น”ศ.นพ.ประกิต กล่าว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *