เมื่อวันที่ 28 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้ปกครองนักเรียนที่เดินทางเข้าร้องเรียนครูทำโทษไม่เหมาะสม กรณีคลิปภาพครูผู้สอนวิชาการค้นคว้าอิสระ ทำโทษนักเรียนชั้น ม.2/7 โรงเรียนอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งมีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียและตกเป็นข่าวดังทางสื่อมวลชน เมื่อช่วงกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 เวลา 14.30 น.ระหว่างที่ครูผู้สอน ในฐานะลูกจ้าง ครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ได้ทำโทษ ด.ช.นครินทร์ ล้อประโคน อายุ 14 ปี ซึ่งส่งเสียงดังรบกวนขณะเพื่อนนักเรียนรายงานหน้าชั้นเรียน โดยการเรียกไปที่หน้าชั้นเรียนและตบที่ปากอย่างแรง กระทั่งครูคนดังกล่าว ต้องยื่นหนังสือลาออกจากการปฏิบัติงานตำแหน่งครูผู้สอน ครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน หลังตกเป็นข่าวนั้น
ล่าสุด นางสำเภา สลินลำจวน อายุ 42 ปี มารดาของ ด.ช.นครินทร์ ล้อประโคน นักเรียนชั้น ม.2/7 ภูมิลำเนาอยู่ที่ ม.7 บ้านตุ่น ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางมาติดต่อขอรับค่าชดเชย พ.ร.บ.ประกันภัยผู้ประสบภัยจากรถ ที่ศาลากลางจังหวัดสระแก้วและบริษัทประกันภัยในตัวเมือง จ.สระแก้ว วานนี้ (27 ก.ย.)ว่า ขณะนี้ ด.ช.นครินทร์ ได้เสียชีวิตแล้ว โดยเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนต้นไม้ หลังมีข่าวกรณีถูกครูตบปากดังกล่าวได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น โดยในวันนี้(28 ก.ย.) ก็จะครบ 1 เดือน สำหรับการตายของลูกชายแล้ว ซึ่งทางแม่และญาติก็เสียใจ ไม่คาดคิดว่าน้องจะมาเสียชีวิตเร็วขนาดนี้ พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวอีก เนื่องจากยังอยู่ในอากาศโศกเศร้า
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2562 เวลา 19.47 น.โดยศูนย์วิทยุสว่างเที่ยงธรรมฯ ได้รับแจ้งจากศูนย์นเรนทรสระแก้วว่า มีผู้ประสบอุบัติเหตุอยู่ที่บริเวณบ้านตุ่น ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ร้องขอให้นำรถพยาบาลไปรับคนเจ็บ 2 คัน โดยพบผู้บาดเจ็บเป็นเด็กนักเรียนชาย 2 ราย อายุ 14-15 ปี เบื้องต้นสาเหตุแจ้งว่าจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ หมายเลขทะเบียน กฉล-428 สระแก้ว ล้มเอง อาการได้รับบาดเจ็บสาหัส หมดสติไม่มีชีพจรทั้ง 2 ราย ทางอาสาสมัครได้ทำการ CPR พร้อมนำส่ง รพ.อรัญประเทศและเสียชีวิตทั้งสองราย ทราบชื่อภายหลังคือ ด.ช.นครินทร์ ล้อประโคน นักเรียนชั้น ม.2/7 ที่ถูกทำโทษจนตกเป็นข่าวและเพื่อนอีก 1 คนด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดกรณีการเสียชีวิตของเด็กนักเรียนรายดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานาอย่างหนัก ในกลุ่มแวดวงการศึกษา นักเรียน ศึกษานิเทศก์และผู้บริหารการศึกษา เนื่องจากหลายฝ่ายไม่คาดคิดว่า เด็กจะมาเสียชีวิต ซึ่งข้อมูลจากเพื่อนนักเรียนด้วยกันแจ้งว่า เด็กนักเรียนที่เสียชีวิตมักจะไปซ้อมฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ร.ร.บ้านตุ่น เป็นประจำและกลับบ้านหลังซ้อมฟุตบอลเสร็จแบบนี้ทุกวัน จึงไม่แน่ใจว่า มีกรณีอุบัติเหตุมีประเด็นอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: siamnews