วันที่ 19 ก.ค. นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ระดับน้ำโขงลดลงมากในรอบหลายปีที่ผ่านมา พบว่าเกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ
- 1.ปริมาณฝนที่ตกลงมาต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ ทั้งที่ประเทศจีน สปป.ลาว และฝั่งไทย
- 2.เขื่อนจิ่งหงของจีนปรับลดการระบายน้ำ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรน้ำ สาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ ลงวันที่ 3 ก.ค.62 แจ้งเปลี่ยนแปลงการระบายน้ำจากเขื่อนจิ่งหง ในช่วงวันที่ 9-18 ก.ค.62 เพื่อดำเนินการบำรุงรักษาสายส่งไฟฟ้าโรงผลิตพลังน้ำปัจจุบันระดับน้ำโขงที่มาจากเขื่อนจิ่นหง ณ สถานีเชียงแสน จ.เชียงราย อยู่ที่ 2.1.เมตร จากระดับน้ำก่อนจีนปรับลดการระบายอยู่ที่ 2.69 เมตร ประกอบกับ ปัจจัยที่ 3 คือ การทดสอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของเขื่อนไซยะบุรี ของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำ ได้เริ่มทดสอบในช่วงระหว่างวันที่ 15–29 ก.ค. ทำให้ระดับน้ำโขงสูงขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว
“จาก 3 ปัจจัยข้างต้นส่งผลทำให้ระดับน้ำโขงที่ลดลงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีระดับน้ำลดลงจากก่อนทดสอบกว่า 1 เมตร ดังนั้น สทนช.จึงเร่งประสานอย่างไม่เป็นทางการกับเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว และทำหนังสือด่วนผ่านคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติลาว เพื่อให้ สปป. ลาว พิจารณาชะลอการทดสอบระบบดังกล่าวออกไปประมาณ 2-3 วัน
เพื่อรอให้น้ำที่ระบายเพิ่มขึ้นจากเขื่อนจิ่งหงไหลลงมาถึงก่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 วัน ช่วงระหว่างวันที่ 18 – 20 ก.ค.62 ที่คาดว่าสถานการณ์ของระดับน้ำโขงจะเข้าสู่ภาวะปกติ”
ที่มา: khaosod.co.th